ผบ.ตร. สั่งตรวจสอบกลุ่มน้ำไม่อาบ ดำเนินคดีทุกมิติ

ผบ.ตร. สั่งตรวจสอบกลุ่มน้ำไม่อาบ ดำเนินคดีทุกมิติ

ผบ.ตร. สั่งตรวจสอบกลุ่มน้ำไม่อาบ ดำเนินคดีทุกมิติ

Blog Article

     ใช้คลิป-ภาพที่ปรากฏเป็นหลักฐานเอาผิดย้อนหลังพล.ต.ท.สำราญ นวลมา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) 123vip เปิดเผยถึงกรณีของกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ‘น้ำไม่อาบ’ ขับขี่ จยย. รวมตัวไปท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ และมีการกระทำผิดกฎจราจร รวมถึงมีการแข่ง จยย. โดยเบื้องต้น ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งให้ตำรวจในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะใน จ.เพชรบูรณ์ ตรวจสอบการกระทำความผิด โดยใช้ภาพ-คลิปจากประชาชนและกลุ่มผู้ขับขี่ จยย. เป็นหลักฐานในการดำเนินคดี ซึ่งในขณะนี้ได้รับรายงานจากผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ว่าได้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดไปแล้วกว่า 1,000 รายรอง ผบ.ตร. ยืนยันว่า จะดำเนินการเอาผิดในทุกมิติ ตั้งแต่กฎหมาย พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2565 ไปจนถึงสืบสวนเกี่ยวกับร้านค้าที่ร่วมสนับสนุนในการกระทำความผิดด้วย ส่วนผู้ที่มีพฤติกรรมพยายามขับขี่ จยย. และรถยนต์ แข่งขันในทางโดยไม่สวมป้ายทะเบียน จะต้องพิสูจน์รถ พิสูจน์ตัวบุคคล ตามจับมาดำเนินคดี ซึ่งนอกจากกฎหมายจราจรแล้ว อาจจะต้องมีการสืบสวนประวัติอาชญากรรม และการกระทำความผิดข้อกฎหมายอื่นๆ ด้วย

      ส่วนมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิด 123vip ที่สังคมตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดตำรวจไม่ดำเนินการอย่างเร่งด่วนนั้น รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีนโยบายไม่กระทำการปิดล้อมหรือไล่จับกุมเหมือนในอดีต เนื่องจากอาจจะส่งผลในเรื่องของการเกิดอุบัติเหตุ จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้แต่จะเน้นในการสืบหาพยานหลักฐานเอาผิดภายหลัง ตามหลักฐานที่พบ รวมไปถึงอาจจะมีการเชิญตัวผู้ที่เป็นแกนนำกลุ่มในการชักชวนในการรวมตัว มาทำความเข้าใจในเรื่องของการรวมตัวไปท่องเที่ยวในอนาคต ซึ่งการรวมตัวไปท่องเที่ยวจำนวนมากเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ แต่จะต้องอยู่ในขอบเขตของกฎหมายซึ่งผลการดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดในข้อหาพยายามแข่งรถในทาง หรือขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก ที่ผ่านมาศาลมีคำสั่งสูงสุดถึงขั้นริบรถ และ สั่งกักขังหรือจำคุกผู้กระทำความผิดไปแล้วจำนวนมาก จึงยกเป็นข้อกฎหมายที่จะดำเนินการเอาผิดกลุ่มคนเหล่านี้ในอนาคต อยากให้เป็นตัวอย่างสะท้อนไปถึงผู้ที่คิดจะกระทำความผิดในอนาคตด้วยและฝากประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องประชาชน หากพบการกระทำความผิด คลิปจากกล้องหน้ารถหรือจากโทรศัพท์มือถือก็เป็นอีกหนึ่งหลักฐานสำคัญที่ตำรวจจะใช้ดำเนินคดี หากมีหลักฐานสามารถส่งมาร้องเรียนกับสถานีตำรวจในพื้นที่ หรือตามช่องทางออนไลน์ต่างๆ ที่เปิดรับเรื่องร้องเรียนเอาไว้ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายต่อไป

 

 

Report this page